จาก ADSL ไปจนถึง 4G, จากหน้าจอสัมผัสแบบ Resistive ไปจนถึง OLED, ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์กำลังก้าวหน้าไปสู่ความละเอียดที่สูงขึ้นและสูงขึ้น เริ่มจากความละเอียด D1 ตอนนี้ผลิตภัณฑ์กล้องวงจรปิดมีความละเอียดถึง 4K ซึ่งสูงกว่าเดิม 25 เท่า อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการพัฒนาได้ถูกชะลอลงด้วยความต้องการพื้นที่จัดเก็บและแบนด์วิดท์ที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากวิดีโอความละเอียดสูง

ตัวอย่างเช่น กล้อง 4K มีอัตราบิตตามมาตรฐานอุตสาหกรรมทั่วไปคือ 8Mbps สำหรับ H.264 ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 591GB สำหรับการตรวจตราด้วยกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 7 วัน และใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากกว่าฮาร์ดดิสก์ของพีซี ในขณะเดียวกัน กล้องต้องการแบนด์วิดท์ไม่น้อยกว่า 20Mbps เพื่อรองรับทั้งการคำนวณสตรีมดูภาพสดและสตรีมจัดเก็บข้อมูล แบนด์วิดท์นี้มากกว่าความเร็วเฉลี่ยของสายสัญญาณทั่วโลก และน้อยกว่าในเกาหลีใต้เล็กน้อย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเร็วของสายสัญญาณมากที่สุดในโลก

ดังนั้นเพื่อเป็นการปรับสมดุลระหว่างความต้องการกล้องวงจรปิดแบบ HD และค่าใช้จ่ายสำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและแบนด์วิดท์ที่สอดคล้องกัน และเพื่อให้ทันกับการพัฒนาจาก H.264 ไปเป็น H.265 Uniview ใช้ความพยายามอย่างมากในการใช้ประโยชน์จากมาตรฐานการเข้ารหัส HEVC และในที่สุดได้คิดค้นเทคนิคการเข้ารหัสสิทธิบัตรที่มีชื่อว่า U-Code การผสมผสานระหว่าง U-Code และ H.265 ถือเป็นเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ - Ultra 265 Ultra 265 เป็นโซลูชันแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์ซึ่งสามารถประหยัดพื้นที่จัดเก็บได้ถึง 95% และประหยัดต้นทุนของพื้นที่จัดเก็บได้ถึง 75% และสามารถให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้ สิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือเมื่อไม่นานมานี้ U-Code ได้รับการอัปเดตเป็น U-Code 2.0 ซึ่งทรงพลังและชาญฉลาดยิ่งขึ้น

Ultra 265 เป็นมากกว่าเทคโนโลยีการบีบอัดวิดีโอ

เทคโนโลยีนี้แตกต่างจากเทคโนโลยีการบีบอัดวิดีโอแบบดั้งเดิมที่พยายามลดต้นทุนของพื้นที่จัดเก็บด้วยการลดความละเอียดและอัตราเฟรมอย่างไม่ยั้งคิด และ U-Code 2.0 เลือกใช้ "IRP" (การรับรู้พื้นที่อัจฉริยะ) เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวในแต่ละเฟรม ดังนั้น ฉากที่มีข้อมูลที่น่าสนใจจะถูกจัดเก็บไว้ในขณะที่พื้นที่อื่น ๆ ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น สนามหญ้า กำแพงสีขาว อาจถูกบีบอัดเพื่อประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล

เพื่อเป็นการลดแบนด์วิดท์ U-Code 2.0 ได้นำเทคนิค GOP (กลุ่มภาพ) แบบไดนามิกมาใช้ ซึ่งหมายความว่าจะสามารถปรับเปลี่ยนรอบเวลาระหว่างเฟรม critical I ต่างๆ ของ GOP แบบไดนามิกได้โดยการวิเคราะห์แนวโน้มของประเภทภาพ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เนื่องจากภาพจากกล้องวงจรปิดมักเป็นภาพนิ่ง GOP จึงใช้เวลานานขึ้น แต่หากมีการเคลื่อนไหว GOP ก็จะใช้เวลาน้อยลง ในขณะเดียวกัน ก็ใช้ VI (virtual I frame) เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าเฟรมหลักของสื่อนั้นมีข้อมูลที่สำคัญเพื่อให้ NVR สามารถเรียกใช้ Frame Accurate Search (การค้นหาเฟรมที่แม่นยำ) และ Quick Playback (การเล่นภาพอย่างรวดเร็ว)

นอกจากนี้ U-Code 2.0 ยังรองรับการควบคุมอัตราเฟรมสำหรับเนื้อหาวิดีโอที่แตกต่างกัน ซึ่งเราเรียกสิ่งนี้ว่าอัตราเฟรมแบบไดนามิก อัตราเฟรมแบบไดนามิกถูกใช้เพื่อให้การตรวจสอบอัตราเฟรมสำหรับวัตถุที่เคลื่อนที่หลายชิ้นดำเนินไปโดยอัตโนมัติ แต่ลดอัตราเฟรมในกรณีที่มีวัตถุที่เคลื่อนที่ไม่กี่ชิ้น ทำให้ไม่พลาดทุกรายละเอียดภาพกล้องวงจรปิดที่มีความซับซ้อน และไม่ต้องเสียพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสำหรับการสอดส่องดูแลทั่วไป

นอกจากนี้ U-Code 2.0 ยังสามารถใช้งานได้กับทุกสตรีม ซึ่งหมายความว่า U-Code 2.0 จะสามารถลดแบนด์วิดท์สำหรับการใช้งานหลายอย่างได้ ด้วยการผสานรวม U-Code 2.0 และ H.265 จึงทำให้ Ultra 265 สามารถบีบอัดแบนด์วิดท์และพื้นที่จัดเก็บได้ถึง 95%

การเปรียบเทียบระหว่าง H.264 และ Ultra 265

Ultra 265 - นำประโยชน์ที่ดีเยี่ยมมาสู่ลูกค้า

ภายใต้การกำหนดค่าเดียวกันและการบันทึกวิดีโอเดียวกัน Ultra 265 ใช้ฮาร์ดดิสก์เพียงหนึ่งตัวในการจัดเก็บบันทึกวิดีโอ ในขณะที่ H.264 ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ถึงสี่ตัว จึงทำให้ประหยัดพื้นที่จัดเก็บได้ถึง 75% ด้วย Ultra 265 ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากทั้งต้นทุนของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและต้นทุนการจัดการ

ยิ่งไปกว่านั้น Ultra 265 ยังช่วยรักษาคุณภาพของภาพที่ได้จาก H.265 ช่วยลดความผิดเพี้ยนของภาพที่เกิดจากการบีบอัดแบบเข้ารหัส ปรับปรุงความเบลอของภาพ ลดรอยเปื้อนและความขรุขระบริเวณขอบของเส้นและเพิ่มความแม่นยำของ VCA นอกเหนือจากความก้าวหน้าดังกล่าวข้างต้น Ultra 265 ยังช่วยแก้ปัญหาคอขวดของความละเอียดระดับ HD ได้อีกด้วย ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์กล้องวงจรปิดระดับ Super HD ได้อย่างเต็มรูปแบบ เช่น 4K ภายใต้แบนด์วิดท์ปัจจุบันและการจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในปัจจุบัน Ultra 265 เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าในการเข้าสู่ยุคของ Super HD